Gadget

ช่วยด้วย ห้องน้ำมีปัญหา

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปัญหาต่างๆในห้องน้ำนั้นคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวของเจ้าของบ้านหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นการรั่วซึม  แสงสว่างไม่เพียงพอ กลิ่นไม่พึงประสงค์ ฯลฯ ปัญหาที่กล่าวมานี้มีการพูดคุยสอบถามและแก้ไขกันอยุ่เสมอๆ เราดูปัญหาที่พบได้บ่อยๆ และวิธีแก้ปัญหากันครับ



1. “ส้วมเต็ม-ตัน”
สาเหตุ เกิดจากการทิ้งสิ่งของลงไปอุดตัน การฝังบ่อบำบัดในระดับที่เสมอหรือสูงกว่าโถ บ่อบำบัดมีขนาดเล็กไม่พอกับจำนวนผู้ใช้ กรณีที่ใช้บ่อเกรอะ-บ่อซึม ดินรอบๆบ่ออาจชุ่มน้ำเกินไป น้ำจึงไหลย้อนกลับเข้าบ่อ ทำให้ส้วมเต็มบ่อยๆ การไม่ได้ติดตั้งท่อระบายอากาศในท่อส้วม หรือท่อระบายอากาศอุดตัน เมื่อเวลาที่ของเสียย่อยสลาย จะมีก๊าซเกิดขึ้น แล้วไม่มีทางระบายออก จึงเป็นสาเหตุของการกดน้ำไม่ลง

2. “กลิ่นไม่พึงประสงค์”
สาเหตุหลักๆที่พบมักเกิดจาก
- กลิ่นจากท่อระบายน้ำที่พื้น น้ำที่ขังอยู่ภายในท่อจะเป็นตัวดักกลิ่น แต่ถ้าปล่อยให้น้ำแห้งกลิ่นจะย้อนขึ้นมา จึงต้องหมั่นเติมน้ำอยู่เสมอ
- กลิ่นอับในห้องน้ำ มาจากความชื้นที่ระบายออกไม่ได้หรือไม่ทัน และการที่แสงสว่างส่องไม่ถึง วิธีแก้ไขคือทำช่องบานเกล็ดระบายอากาศที่ประตูห้องน้ำ ให้อากาศไหลเวียน หรือติดตั้งพัดลมดูดอากาศ  ซึ่งจะช่วยให้ห้องไม่มีกลิ่นอับ และยังขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์หลังการใช้ห้องน้ำให้หายไปโดยเร็วอีกด้วย
- กลิ่นที่เกิดจากระดับน้ำที่คอโถสุขภัณฑ์ท่วมไม่พอ เป็นสาเหตุให้กลิ่นย้อนขึ้นมา ให้ตรวจที่ระดับลูกลอยในโถเก็บน้ำอาจมีปัญหา ทำให้น้ำไม่พอตามปริมาณที่กำหนด หรือปัญหาวาล์วปล่อยน้ำเข้าโถชำรุด ทำให้น้ำไหลเข้าไม่พอก็เป็นได้

3. “ห้องน้ำมืดทึบ”
ห้องน้ำที่มีแสงสว่างน้อยเกินไป อาจทำให้สิ้นเปลืองการใช้พลังงานไฟฟ้า และยังเป็นสาเหตุหนึ่งของความอับชื้นในห้องน้ำด้วย
- กรณีที่เริ่มออกแบบบ้าน แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ควรวางตำแหน่งของห้องน้ำไว้ทางทิศตะวันตก เพื่อให้โดนแสงแดดในช่วงบ่าย ห้องน้ำจะแห้งอยู่เสมอ และยังช่วยกันความร้อนให้กับห้องอื่นๆของบ้านด้วย
- ถ้าสามารถทำช่องแสงบนหลังคาให้แสงส่องผ่านลงสู่ห้องน้ำได้ จะทำให้ห้องสว่างและแห้ง

4. “สุขภัณฑ์ไม่สะดวกต่อการใช้งาน”
ปัญหาที่พบ เช่น การวางสุขภัณฑ์ผิดตำแหน่ง ทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวก พื้นที่ใช้งานคับแคบ ในส่วนนี้ควรคำนึงถึงการจัดแปลนที่ถูกต้องและการเตรียมขนาดพื้นที่ที่เหมาะสมกับการติดตั้งสุขภัณฑ์แต่ละชนิด ซึ่งควรเริ่มทำตั้งแต่การออกแบบ หากวางผังหรือกำหนดพื้นที่ติดตั้งสุขภัณฑ์ไม่เหมาะสม การแก้ปัญหาในภายหลังก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะต้องรื้อระบบท่อต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง หากต้องมีการสกัดเจาะ

5. “น้ำรั่วน้ำซึม”
ในที่นี้จะกล่าวถึงการรั่วซึมของงานระบบท่อ ซึ่งแบ่งได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
– ระบบน้ำดี หรือน้ำประปาที่เรานำมาใช้ ส่วนนี้มักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องท่อตัน เนื่องจากมีแรงดันท่อทำให้น้ำไหลออกมาเมื่อเปิดใช้ แต่ปัญหาที่พบบ่อยๆคือ การรั่วซึมตามรอยต่อต่างๆ เมื่อกาวต่อท่อพีวีซีเสื่อมสภาพ
– ระบบน้ำทิ้ง คือท่อระบายน้ำที่ใช้แล้ว ซึ่งมักมีเศษสิ่งปฏิกูลต่างๆ เช่น คราบสบู่ เส้นผม กระดาษชำระ ฝุ่นผง รวมทั้งเศษตะกอนต่างๆที่มากับน้ำ วิธีสังเกตง่ายๆเมื่อเกิดการอุดตันคือ เมื่อใช้งาน น้ำจะระบายออกได้ช้า ควรแก้ไขด้วยการถอดข้อต่อท่อออกมาทำความสะอาด และหมั่นดูแลรักษาบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆอีก เช่น การใช้ท่อระบายน้ำที่มีขนาดไม่ได้มาตรฐาน โดยทั่วไปท่อน้ำทิ้งควรมีขนาดไม่ต่ำกว่า 2.50 นิ้ว ท่อโสโครกควรใช้ขนาด 4 นิ้ว ควรเดินท่อให้ลาดเอียงตามมาตรฐานที่กำหนดเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าลาดเอียงได้มาก การอุดตันจะยิ่งน้อยลง และที่สำคัญคือ ต้องมีช่วงต่อหักงอให้น้อยที่สุด

6. “ปัญหาอื่นๆ”
นอกจากที่กล่าวข้างต้นแล้ว อาจยังมีปัญหาอื่นที่พบได้ เช่น
- ปัจจุบันเรานิยมติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนในห้องน้ำมากกันขึ้น ทั้งชนิดหม้อต้มสำหรับใช้ในปริมาณมากหรือหลายๆจุด และชนิดติดตั้งเฉพาะจุด บางครั้งเราลืมนึกถึงการเตรียมพื้นที่ที่จะติดตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อความสวยงามและความปลอดภัยแก่ตัวผู้ใช้ และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือระบบท่อจ่ายน้ำร้อนจากเครื่องไปยังก๊อกผสม ต้องเดินท่อทองแดงแยกจากท่อน้ำดีเสมอ
- ควรเลือกซื้อสุขภัณฑ์ก่อนการเทพื้นห้องน้ำ เพราะแต่ละยี่ห้อจะมีระยะหรือตำแหน่งการวางท่อเข้าสุขภัณฑ์แตกต่างกัน และควรเลือกซื้ออุปกรณ์ประกอบไปพร้อมกับการซื้อสุขภัณฑ์ เพื่อป้องกันปัญหาติดตั้งไม่ได้เพราะขนาดต่างกัน
- ในบางครั้งเรามักลืมนึกถึงเรื่องการซ่อมบำรุงในภายหลัง จึงควรทำช่องเปิดใต้ฝ้าเพดาน เพื่อให้ขึ้นไปดูแลรักษา หรือหาจุดรั่วซึมของระบบท่อต่างๆได้ง่าย และควรเตรียมช่องเดินท่อทางตั้ง เพื่อความเรียบร้อยและช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ในกรณีที่ท่อเกิดการรั่วซึม พร้อมทำประตูเปิดปิดสำหรับการเข้าไปบำรุงรักษาด้วย

Share on :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น